โรนัลโด้ ทุบสถิติ

โรนัลโด้ ทุบสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล

โรนัลโด้ ทุบสถิติ อดีตหัวหอกชาวอิหร่านเชื่อมั่นว่า “คริสเตียโน โรนัลโด” จะทำสถิติแซงหน้า และก้าวขึ้นไปเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลคนใหม่ในระดับทีมชาติได้อีกไม่ช้า

คริสเตียนโน่ ดรนัลโด้ กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติโปรตุเกส โชว์ผลงานจบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซัดคนเดรยว 4 ประตูในเกมส์ที่โปรตุเกสบุกถล่มลิทัวเนียขาดลอย 5-1 ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มบี

กุนซือใหญ่แห่งทัพฝอยทองจัดหนักชื่นชมดาวยิงตัวเก่งชุดใหญ่ หลังทำคนเดียว 4 ประตู ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือกนัดล่าสุด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 ก.ย.ว่า เฟร์นานโด ซานโตส นายใหญ่ทีมชาติโปรตุเกส ออกโรงชื่นชมกัปตันจอมถล่มประตูอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ว่ายังเป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกคนปัจจุบัน

ดาวเตะจากค่ายม้าลาย เหมาคนเดียว 4 ประตูในเกมที่บุกไปถลุงลิธัวเนียได้ถึงถิ่น 5-1 พร้อมกับครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ของศึกฟุตบอลยูโรรอบคัดเลือกอีกด้วย

ทำให้ล่าสุด เฟร์นานโด ซานโตส กุนซือใหญ่ทีมชาติโปรตุเกส ได้ออกมาโปรยยาหอมใส่แข้งดังคนสำคัญว่า “นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนและโต้แย้งไม่ได้ว่า เขา(โรนัลโด)คือผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก”

“ไม่มีสนามไหนในโลกใบนี้ ที่ไม่ปรบมือชื่นชมโรนัลโด ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่พอเขาทำประตูไม่ได้ บางคนจะบอกว่ามันจบแล้ว แต่ยังไม่จบหรอก คุณต้องระวังไว้ให้ดีเพราะมันไม่ทีทางจบลงแบบนั้นแน่”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 13 ก.ย.ว่า อดีตดาวยิงระดับตำนานทีมชาติอิหร่าน ยืนยันพร้อมร่วมแสดงความยินดีกับ คริสเตียโน โรนัลโด หากสามารถทำลายสถิติโลกของตัวเองได้สำเร็จ

แข้งดังจากยูเวนตุสยิงไปแล้ว 93 ประตู จากการติดทัพฝอยทอง 160 เกม และปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลระดับทีมชาติ ตามหลังอดีตหัวหอกชาวอิหร่านอยู่เพียงแค่ 16 ลูกเท่านั้น

ทำให้ล่าสุด ดาอี เชื่อมั่นว่า โรนัลโด จะทำลายสถิติของตัวเองได้ในไม่ช้า “สถิติมีไว้เพื่อทำลาย ผมเคยทำได้สมัยที่ยังเล่นอยู่ และตอนนี้ก็ถึงคิวของคนอื่นที่จะทำมันได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“ทำไมผมต้องเสียใจล่ะ โรนัลโดคือนักเตะที่ยอดเยี่ยม และสร้างผลงานได้อย่างมากมายในโลกฟุตบอล ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังท็อปฟอร์มอยู่ด้วย”

มาทำความรู้จัก คริสเตียนโน่ ดรนัลโด้

ในวงการฟุตบอลคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักชายคนนี้ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เพราะเขาคนนี้มีฝีเท้าที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ ด้วยรางวัลมากมายที่ได้รับถือเป็นเครื่องหมายการยืนยันได้เป็นอย่างดี เขาคนนี้มีชื่อว่า “Cristiano Ronaldo”

คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งที่มาของชื่อ Cristiano Ronaldo มาจากบิดาของเขาเป็นคนตั้งให้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Ronald Wilson Reagan ที่พ่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั้นชื่นชอบมากตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นนักแสดงเลยก็ว่าได้

ครอบครัวของ Ronaldo ตั้งอยู่ในย่านกิงตาดูฟัลเชา เขตอังดูอังตอนีอูของเมืองฟุงชาล เป็นเขตที่มีคนยากจนส่วนใหญ่อาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก โรนัลโด้ ได้เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆ เมื่อตอนที่เขาอายุถึง 6 ขวบ เขาก็เริ่มเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในทีมชุดใหญ่ของ อังดูริญญา  (Andorinha) จากการชักชวนของญาติที่อยู่ในทีมนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลงเล่นฟุตบอลในนามของเยาวชนอังดูริญญา  (Andorinha) อยู่ 2 ปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับทีม นาซีอูนัล ในปี ค.ศ. 1977 และได้ทำสัญญากับสโมสรยักษ์ใหญ่ สปอร์ติงลิสบอน แต่ทว่า โรนัลโด้ ได้ถูกพิจรณาให้ย้ายไปอยู่กับทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคนที่ซื้อตัวของเขามาก็คือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในราคา 12.24 ล้านปอนด์ และทำให้ โรนัลโด้ได้แชมป์เอฟเอคัพ เป็นรางวัลแรกอันทรงเกียรติของเขามากๆ ในปี 2003

โรนัลโด เข้าสู่เส้นทางสายฟุตบอลอาชีพเมื่อปี 1997 เริ่มต้นกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน กับชุดทีมระดับเยาวชน ก่อนที่ในปี 2001 จะขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้สำเร็จ  เมื่ออายุได้เพียง 17 ปีเท่านั้น หลังได้มีโอกาสลงเล่นทีมชุดใหญ่ของ สปอร์ติ้ง นัดแรก ก็สามารถทำได้ 2 ประตู กับทีม โมไรเรนส์ ขณะเดียวกันเขาก็ยังติดทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี อีกด้วย ซึ่งเป็นรายการศึกชิงแชมป์ยุโรป

หลังจากเสร็จภารกิจในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป ยู-17 ชื่อของ คริสเตียโน โรนัลโด ได้เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างในโลกลูกหนัง มีแมวมองจากทีมลีกชั้นนำของยุโรปจับตามองอย่างมากมาย กุนซือต่างๆ ยกให้เขาคือดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการฟุตบอลประเทศโปรตุเกสสมัยนั้นทันที หนึ่งในนั้นคือ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ ที่สมัยนั้นคุมทีม “ลิเวอร์พูล” ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ก่อนที่จะล้มเลิกการล่าลายเซ็นเจ้าหนูวัย 17 ปี รายนี้ เนื่องจากเขามองว่า โรนัลโด้ ยังเด็กเกิน ด้วยความที่เปี่ยมพรสวรรค์, ทักษะ และมาพร้อมด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่เกินวัย

อีก 2 ปีถัดมา ฝีเท้าของยอดดาวรุ่งแห่ง ลิสบอน ก็ไปแตะตาของ ยอดบรมกุนซือของพลพรรค “ปีศาจแดง” อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เป็นผู้จัดการทีมในสมัยนั้น โดยเขาพาทีมไปลงเตะอุ่นเครื่องกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนเปิดฤดูกาล 2003/2004 ก่อนที่จะโดน โรนัลโด ที่วัย 19 ปี ในตอนนั้นเผาเครื่องจนยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษไปไม่เป็น ก่อนที่จะถูกยัดเยียดความพ่ายแพ้ไปถึง 3-1 จนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องรีบดึงตัวเจ้าหนูนี้มาร่วมทัพในทันที ด้วยค่าตัว 12.21 ล้านปอนด์ มาสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

โรนัลโด ได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อเบอร์ 7 ต่อจาก เดวิด เบ็คแฮม ที่อำลาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปร่วมทัพ รีล มาดริด เรียกได้การสวมยูนิฟอร์มของ แมนยู หมายเลข 7 นี้ ทำให้ชื่อเสียงของ โรนัลโด โด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ชื่อเสียงก็มาพร้อมกับแรงกดดันอันมหาศาล ท่ามกลางความคาดหวังของเหล่าพลพรรค “Red Devil” จนมีครั้งหนึ่งเขาเคยขอเปลี่ยนเบอร์เสื้อเป็นหมายเลข 28 ตามเดิมเหมือนที่เค้าเคยสวมในสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่ถูกปฏิเสธจากสโมสร เนื่องจากทุกคนต่างมากว่า โรนัลโด เหมาะสมแล้วที่จะสืบทอดตำนานหมายเลข 7 ต่อจาก เดวิด แบ็คแฮม ต่อไปในอนาคต
ขอบคุณภาพจาก : thairath

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม scorefootballs